วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558





              คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ตั้งขึ้นเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ซึ่งเป็นคณะที่ 3 ของมหาวิทยาลัย ต่อจากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลิตนักโบราณคดีไปปฏิบัติงานดูแลรับผิดชอบ การอนุรักษ์โบราณวัตถุสถานอันเป็นมรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดจนปฏิบัติงานสนามทางโบราณคดีให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีศาสตราจารย์หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์เป็นคณบดีท่านแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 คณะโบราณคดีได้ปรับปรุงการศึกษาระดับปริญญาบัณฑิต โดยขยายขอบเขตการผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นๆ อีกนอกเหนือจากการผลิตนักโบราณคดี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งก็คือการเพิ่มสาขาวิชาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เพื่อให้บัณฑิตสามารถใช้ภาษาในชีวิตประจำวันได้อย่างเชี่ยวชาญและนำไปประยุกต์ใช้กับงานต่างๆได้
คณะโบราณคดี ทำการเรียนการสอนตลอด 4 ปีการศึกษาที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ โดยมีศูนย์สันสกฤตศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นหน่วยงานเสริมเพื่อทำการเรียนการสอนแก่นักศึกษาคณะโบราณคดีสาขาภาษาไทย รวมถึงวิชาโทบาลี สันสกฤต นอกจากนี้คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ยังถือเป็นที่เดียวในประเทศไทยที่มีการเปิดการเรียนการสอนในภาควิชาโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะเป็นวิชาเอกอีกด้วย

ประวัติคณะและการเรียนการสอน
คณะโบราณคดีได้ตั้งขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2498 โดยมีจุดมุ่งหมายหลักให้เป็นคณะวิชาที่ผลิตครูอาจารย์และนักโบราณคดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานโบราณคดีเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในกองโบราณคดี ของกรมศิลปากร หรืองานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโบราณคดี เพื่อเป็นการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อดูแล รักษาโบราณสถานและโบราณวัตถุที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยให้คงอยู่อย่างยาวนานเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป โดยในส่วนของสาขาโบราณคดีนั้นจะเน้นการขุดค้นโบราณวัตถุเพื่อการศึกษาในเรื่องที่สนใจ ส่วนสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะจะเน้นการศึกษารูปแบบการสร้างสถาปัตยกรรม วมถึงภาพเขียนในแต่ละยุคสมัย เพื่อเข้าใจในการสื่อความหมาย รวมถึงอิทธิพลที่ส่งผลต่องานศิลปะนั้นๆ และสาขามานุษยวิทยาเป็นการศึกษามนุษย์เพื่อเข้าใจพฤติกรรมต่างๆที่ส่งผลต่อสังคมและคนรอบข้าง

ในแรกเริ่มนั้นยังไม่ได้มีการเปิดสอนทางด้านภาษา ต่อภายหลังมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้มีความสอดคล้องกับตลาดแรงงานในปัจจุบันมากขึ้น จึงได้มีการเปิดสอนในภาควิชาภาษาตะวันออกและภาษาตะวันตก โดยในภาควิชาภาษาตะวันมีสาขาภาษาไทยเป็นวิชาเอก ส่วนภาควิชาภาษาตะวันตกประกอบด้วยสาขาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการเรียนการสอนที่เน้นการเรียนภาษาเพื่อการนำไปใช้ประกอบอาชีพเฉกเช่นเดียวกับคณะมนุษย์ศาสตร์หรือคณะศิลปศาสตร์ ถึงแม้จะมีการเพิ่มคณะวิชาภาษาตะวันออกและภาษาตะวันตกซึ่งเป็นสาขาที่เน้นศึกษาภาษาล้วนๆเข้ามาแต่ก็ยังคงใช้ชื่อคณะว่าคณะโบราณคดีตามเดิมเพื่อเป็นการคงเอกลักษณ์ของคณะที่มีมานานไว้นั่นเอง และเนื่องด้วยการเปิดสอนในสาขาที่ครอบคลุมทั้งด้านสังคมและภาษา ทำให้บัณฑิตสามารถประกอบอาชีพต่างๆได้ เช่น นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ศิลปะ นักมานุษยวิทยา มัคคุเทศก์ นักเขียน นักเขียนสารคดี พนักงานโรงแรม พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ประชาสัมพันธ์ นักข่าว อาจารย์สอนภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศส ฯลฯ
 ปรัชญาคณะ
"ศึกษามนุษย์ ขุดค้นก้าวหน้า ภาษาเชี่ยวชาญ สืบสานศิลปวัฒนธรรม"


 เพลงประจำคณะ
 เพลงของคณะโบราณคดีนั้นถูกแต่งไว้มากกว่า 20 เพลง เพื่อใช้ในกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เช่น การชนช้างหรือการเข้าค่ายคณะ เป็นต้น แต่เพลงที่ได้รับการยอมรับและถือเป็นเพลงประจำคณะคือเพลง "แววมยุรา" ซึ่งถูกแต่งโดยพิเศษ สังข์สุวรรณ ศิษย์เก่าคณะโบราณคดี เพลงแววมยุราถูกแต่งขึ้นในช่วงที่เรียกว่าเป็นช่วงวิกฤตของคณะก็ว่าได้ เนื่องจากในช่วงปีพ.ศ. 2513 มีแนวโน้มจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยศิลปากรว่าต้องการให้คณะโบราณคดีถูกยุบไปรวมกับคณะอักษรศาสตร์ ซึ่งก็ถูกหลายฝ่ายค้านไว้ โดยเฉพาะนักศึกษาคณะโบราณคดีที่ได้ออกมาคัดค้านอย่างชัดเจน จึงเป็นที่มาของเพลงแววมยุราที่ในเพลงมีการแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่คณะโบราณคดีถูกมองข้ามและไม่ได้รับการเหลียวแลหรือเห็นค่า พิเศษ สังข์สุวรรณยังได้เปรียบเปรยดอกแววมยุราซึ่งเป็นดอกของผักตบชวาที่แม้ผักตบชวาจะล่องลอยไปตามน้ำอย่างไร้ค่าแต่เมื่อผลิดอกสีม่วงและอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทุกคนก็จะเห็นค่าของมัน เฉกเช่นเดียวกับชาวคณะโบราณคดีที่ในตอนนั้นไม่ได้รับความเห็นค่า แต่หากสามัคคีและไม่ช่วยกันผ่านวิกฤตไปด้วยกันก็จะเป็นดอกแววมยุราที่งดงาม และดอกแววมยุราก็มีสีม่วงเฉกเช่นเดียวกับสีคณะโบราณคดีอีกด้วย
นอกจากนี้เพลง สวัสดีศิลปากร ยังเป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกแต่งโดยคณะโบราณคดี ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2538 จึงได้มีการแต่งเพลงนี้เพื่อใช้ในการหาเงินบริจาคให้ผู้ประสบภัย ภายหลังก็ได้มีการใช้เพลงนี้ในทุกกิจกรรมและใช้ร้องกันในทุกคณะของมหาวิทยาลัยศิลปากร


เกร็ดความรู้
-สีประจำคณะ คือ สีม่วง หรือ สีม่วงเม็ดมะปราง ตามโครงการอนุรักษ์และส่งเสริมโทนสีของไทย เพื่อเป็นกิจกรรมหนึ่งเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งไม่ได้อนุมัติประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
-การสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีการศึกษา 2548 คณะโบราณคดี วิชาเอกภาษาไทย เป็นสาขาวิชาที่มีผู้เลือกสมัครมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย
-สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะโบราณคดี เป็นสาขาวิชาที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นคณะที่มีความเด่นทางและเข้มแข็งทางวิชาการด้านภาษาฝรั่งเศสเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการจัดอันดับของสมาคมฝรั่งเศส
-ปี 2549 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นคณะที่มีศักยภาพการเรียนการสอนเป็นอันดับ 9 ของกลุ่มคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จากการจัดอันดับของ สกอ.
-การสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีการศึกษา 2552 คณะโบราณคดี วิชาเอกมานุษยวิทยา เป็นสาขาวิชาที่มีผู้เลือกสมัครมากเป็นอันดับ 8 ของประเทศไทยสาขาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ไม่ได้สอนภาษาโบราณหรือโบราณคดีภาคภาษาต่างประเทศแต่อย่างใด แต่เป็นการสอนให้ใช้ภาษาได้อย่างเชี่ยวชาญเพื่อการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เหมือนคณะมนุษย์ศาสตร์หรือศิลปศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยอื่นทุกประการ

รุ่น 19  ถ่ายที่ระเบียงตำหนักพรรณรา
อาคารเรียนคณะโบราณคดีเมื่อ พ.ศ.2516
ประตูทางเข้า "คณะโบราณคดี" พ.ศ.2519 รุ่น 20

ภาพโบราณคดี รุ่น 32 ไปออกฟิลด์ทริป วิชาศิลปะสุโขทัย